เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าการสั่งนำเข้าสินค้าจากจีนมาจำหน่ายในประเทศถือเป็นหนึ่งในธุรกิจที่กำลังอยู่ในเทรนด์ปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกลุ่มผู้สนใจดำเนินธุรกิจแบบไม่มีหน้าร้าน และเน้นใช้เครื่องมือออนไลน์ในการเข้าถึง หรือเชื่อมต่อกับลูกค้า ซึ่งเหตุผล หรือข้อดีที่ทำให้ธุรกิจดังกล่าวได้รับความสนใจอย่างมากนั้น หลายคนคงพอทราบกันอยู่แล้ว ทว่าในความเป็นจริงคนที่ประสบความสำเร็จ หรือสามารถทำกำไรได้จากธุรกิจนำเข้าสินค้าจากจีนถือว่ามีสัดส่วนไม่มากนัก เพราะแม้ว่าการนำเข้าสินค้าจากจีนจะเป็นช่องทางที่มีข้อดีมากมายจนทำให้คนจำนวนมากแห่มาให้ความสนใจ แต่ในขั้นตอนการดำเนินธุรกิจจริงต่างก็มีความยากในการบริหารจัดการไม่ต่างจากโมเดลธุรกิจอื่นๆ อีกทั้งยังต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงกว่าหลายๆ โมเดลธุรกิจอีกด้วย ดังนั้นในบทความจึงได้เลือกนำเอาวิธีเตรียมความพร้อมก่อนเริ่มต้นธุรกิจนำเข้าสินค้าจากจีนอย่างจริงจังมาแนะนำให้หลายคนได้ใช้เป็นแนวทางในการเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับดำเนินธุรกิจจริง และเข้าใจความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในการดำเนินธุรกิจดังกล่าว
ศึกษาข้อมูลอย่างจริงจัง ในการเริ่มต้นธุรกิจ หรือค้าขายสินค้าอะไรสักชิ้นแน่นอนว่าการลงมือทำเป็นสิ่งสำคัญ แต่หากเราลงมือทำโดยขาดความรู้ ขาดข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับธุรกิจนั้นๆ หรือสินค้านั้นๆ ก็เท่ากับว่าต้องแบกความเสี่ยงที่จะล้มเหลวมากกว่าคนที่มีความรู้ความเข้าใจเป็นอย่างดี ในการทำธุรกิจนำเข้าสินค้าจากจีนก็เช่นเดียวกัน เราควรเริ่มต้นด้วยการศึกษาข้อมูลอย่างจริงจัง โดยอาจเริ่มจากการค้นหาบทความที่พูดถึงการสั่งสินค้าจากจีนในอินเทอร์เน็ต เว็บไซต์ต่างๆ อ่าน หรือหากต้องการอ่านข้อมูลที่ถูกจัดเรียงอย่างเป็นระบบระเบียบเพื่อความเข้าใจที่ดียิ่งขึ้นก็อาจเลือกหาหนังสือที่สอนเกี่ยวกับธุรกิจนำเข้าสินค้าจากจีนมาอ่านสักเล่ม และถ้าหากรู้สึกว่าการอ่านเพียงอย่างเดียวนั้นไม่พอที่จะทำให้เราเข้าใจในโมเดลธุรกิจนี้ได้ดีไปกว่าคนอื่นๆ ก็อาจเลือกลงเรียนคอร์สที่สอนเกี่ยวกับธุรกิจนี้โดยตรง ซึ่งปัจจุบันก็มีคนที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจนำเข้าสินค้าจากจีนหลายคนเปิดสอนขั้นตอนการดำเนินธุรกิจดังกล่าวแบบเจาะลึก อย่างไรก็ตามช่องทางศึกษาอย่างหลังนี้อาจจะมีค่าใช้จ่ายมากหน่อยเมื่อเทียบกับสองช่องทางแรก ดังนั้นก่อนการตัดสินใจเลือกลงคอร์สเรียนใดๆ จึงควรคำนึงถึงความคุ้มค่า ประโยชน์ที่จะได้รับให้ดีก่อน
เลือกรูปแบบการจำหน่าย แน่นอนว่าโดยทั่วไปแล้วรูปแบบการทำธุรกิจนำเข้าสินค้าจากจีนก็คือการที่เรานำเข้าสินค้ามา และนำไปจำหน่ายต่อภายในประเทศ แต่รูปแบบการจำหน่ายก็แบ่งแยกย่อยได้สองแบบ นั่นคือจำหน่ายปลีก และจำหน่ายส่ง ดังนั้นเมื่อเราศึกษาข้อมูลจนมีความรู้ความเข้าใจในภาพรวมของธุรกิจอย่างดีแล้ว สิ่งสำคัญต่อมาจึงเป็นการตัดสินใจว่าจะเลือกจำหน่ายแบบปลีก หรือส่ง เพราะลูกค้าสำหรับการจำหน่ายทั้งสองรูปแบบนั้นแตกต่างกันชัดเจน การบริหารจัดการสต๊อกสินค้าก็แตกต่างกันออกไปด้วย โดยหากเราเลือกจำหน่ายปลีกก็เท่ากับว่าลูกค้าเราคือผู้บริโภค หรือผู้ใช้สินค้านั้นๆ โดยตรง แต่หากเลือกจำหน่ายส่ง ลูกค้าก็ย่อมเป็นกลุ่มพ่อค้าแม่ค้า หรือห้างร้านต่างๆ เราจึงต้องตัดสินใจเลือกรูปแบบการจำหน่ายที่เหมาะสมกับตนเอง โดยอาจคำนึงความสามารถในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่แตกต่างกันเป็นหลัก
จัดสรรเงินทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ในการดำเนินธุรกิจถือว่ามีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับการจัดสรรเงินลงทุน เรียกได้ว่าธุรกิจจะมีกำไรหรือขาดทุนนั้นกว่า 50% เป็นผลมาจากการจัดสรรเงินทุนก็ว่าได้ ซึ่งในธุรกิจนำเข้าสินค้าจากจีนก็เช่นกัน เราจำเป็นต้องเตรียมพร้อมในการจัดสรรเงินทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ควรกำหนดเงินทุนสำหรับสินค้าชิ้นต่างๆ อย่างเหมาะสม ตัวอย่างเช่น เลือกจัดสรรส่วนของต้นทุนสินค้าที่คาดว่าจะขายได้ดี หรือมีความต้องการจากกลุ่มลูกค้าสูงในสัดส่วนที่มากกว่าสินค้าชิ้นอื่นๆ เป็นต้น นอกจากนี้ก็ควรมีการจัดสรรเงินทุนเผื่อกรณีอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการสั่งนำเข้าสินค้าจากจีนด้วย เช่น ค่าประกันสินค้าเสียหายจากการขนส่ง เป็นต้น เพราะปัญหาที่เกี่ยวเนื่องกันอย่างการแจ้งเคลมสินค้า การคืนสินค้าและขอคืนเงินจากลูกค้าอาจเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้ ซึ่งหากไม่มีการจัดสรรเงินทุนส่วนนี้ก็อาจทำให้เจอกับความยุ่งยากต่างๆ ในการบริหารจัดการได้
สำหรับลูกค้าใหม่ที่สนใจนำเข้าสินค้ากับทาง CTT Logistics รับไปเลยส่วนลดค่าขนส่ง จีน-ไทย มูลค่า 15,000 บาท สำหรับใครที่ไม่เคยนำเข้าสินค้าก็ไม่ต้องกังวลสามารถรถทะเบียนรับคำปรีกษาฟรี กับ CTT Logistic Service & Solution
ที่ : https://bit.ly/3LYFY6Y
หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ : https://lin.ee/syTgeJV